31 December 2009

บ้ายบายปีวัว สวัสดีปีเสือ


ดีใจจังที่ปี 2009 กำลังจะจากไป เพราะรู้สึกว่าปีฉลู (ปีเกิดนะนั่น) ดูจะ 'เฮงซวย' ตั้งแต่เริ่มปี จนถึงปลายปี เรื่องใหญ่ที่สุดคงจะเป็นอาการกะเสาะกะแซะจากนิ่วในถุงน้ำดี จนต้องหามเข้าโรงพยาบาล และที่สุดก็ต้องผ่าตัดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เป็นการผ่าตัดครั้งแรกในชีวิตด้วยสิ
เรื่องแย่ถัดมาคือเลิกกับแฟนที่คบกันมา 3 ปี แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวมาก่อน จู่ๆ ก็ได้เมล์มาบอกเลิกซะงั้น ก็โอเคครับ เพราะเคยบอกเขาว่าให้รักตัวเองมากๆ วันนี้เขาก็รักอนาคตตัวเอง แต่วันที่เลิกกันนี่สิ ตรงกับวันเกิดพอดี เป็นของขวัญวันเกิดที่คงจำได้ไปชั่วชีวิต ถึงตอนนี้ก็ยังคงเซ็งๆ
เรื่องต่อมาไม่รู้จะเรียกว่าดีหรือร้าย เพราะต้องเสียเพื่อนไปแบบงี่เง่า เป็นสงกรานต์ที่ดีและแย่พอๆ กัน เรื่องแย่ก็บอกแล้วว่าเสียเพื่อน แต่เรื่องดี ก็คือทำให้ได้รู้จักคนมากขึ้น
เรื่องแย่ๆ ล่าสุดเห็นจะเป็นเรื่องนาฬิกาหาย อันนี้เรื่องมันงี่เง่าอีกแล้ว เพราะเพื่อนซื้อนาฬิกาที่ชอบได้ในราคาพิเศษ เป็นนาฬิกาที่ทำเป็นสร้อยคอของ Coach เพื่อนแสนดีก็เอามาให้ลองถึงสนามเสือป่า งานดนตรีที่เพิ่งผ่านไป ก็บอกว่าเดี๋ยวเอาไปลองที่บ้าน ลองตรงนี้มองไม่เห็น กลับถึงบ้าน นาฬิกาที่ซ่อนไว้อย่างดีก็ร่วงไปเรียบร้อยตั้งแต่อยู่ที่สนามเสือป่า
นอกนั้นก็มีเรื่องบางเรื่องที่เล่าตรงนี้ไม่ได้ และอีกหลายเรื่องที่เป็นเรื่องที่มาให้เซ็งแบบเล็กๆ น้อยๆ แต่หงุดหงิดอารมณ์ ซึ่งจะมีมาให้เซ็งแบบนี้แทบทุกอาทิตย์ และแน่นอนว่ามีมาทุกเดือน คราวแรก ว่าจะจดเอาไว้ว่ามีอะไรบ้าง แต่ท่าจะเยอะมาก เลยไม่จดดีกว่า ปล่อยให้มันเลือนหายไปกับความทรงจำดีกว่า
ปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง คงเป็นอีกหนึ่งปีที่น่าจะดีขึ้นๆ อย่างน้อยก็ขอให้ไม่แย่ หรือเจ็บไข้ได้ป่วยเหมือนปีนี้ และขอให้คำอธิษฐานครั้งต่อไปนี้ไปถึงยังเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ญาติสนิทมิตรสหาย หรือแม้แต่ศัตรู หรือคนที่เกลียดผมก็ตาม มีมิตรดีกว่าศัตรูล่ะครับ
ลาทีปีเซ็งๆ
ขอให้ปีเสือ 2010 เป็นปีที่ดีที่สุดอีกปีของทุกๆ คน มีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไปนะครับ :)

29 December 2009

อโหสิ ถ้าคิดได้

หลายวันก่อน ได้เห็นคนที่เกลียดเรา เขาทำตัวเองคล้ายกับที่ว่าเรา (แต่คงเนียนกว่า) จากที่เคยโมโหว่าทำไมต้องมาเกลียดกันขนาดนี้ ก็เลยรู้สึกสงสาร และรู้สึกเสียดายที่รู้จักกันมา แต่ก็ไม่รู้จักกันดีพอ ..แต่ถามว่าเกลียดเขาไหม ไม่นะ ไม่เกลียด เพราะเรื่องที่เกิดเป็นเรื่องไร้สาระเกินกว่าจะเกลียดกัน เคลียร์คือเคลียร์ จบคือจบ ไม่ใช่ต่อความเอาเองภายหลัง เพราะนั่นก็แสดงว่าไม่จบ!

รู้สึกน้อยใจมากกว่า ว่าทำไม ว่าเราได้ แต่ตัวเองก็ทำเสียเองล่ะ!

บางครั้งการจะพูดอะไร การอวดภูมิ หรืออวดตน ขอให้พิจารณาตนก่อนว่าดีดังพูดหรือเปล่า เข้าใจในสิ่งที่ตนพูดหรือไม่ มิฉะนั้น คำเหล่านั้นจะย้อนกลับมาทำลายตัวเอง - อโหสิให้บรรดามืออาชีพทั้งหลายครับ

และคงไม่เป็นฝ่ายเริ่มเข้าไปหาอีกแล้วครับ เพราะให้เกียรติกันไปเรียบร้อยแล้ว พูดกันแบบมืออาชีพแบบไทยๆ ผู้อาวุโสน้อยกว่า ย่อมต้องมีสัมมาคาราวะต่อผู้มีอาวุโสกว่า หรืออย่างน้อย ...มารยาททางสังคม

ย้ำอีกทีว่าไม่เคยเกลียด แต่มีโกรธบ้าง (ดังที่เขียนไปแล้วข้างต้น) และพร้อมให้คิดใหม่เสมอ ถ้าอ่านแล้วนึกขึ้นได้ มองคนรอบข้าง แล้วมองตนเอง ลดทิฐิ ลดความอวดตนลง ก็คุยกันได้เสมอ

แต่ถ้ายังเป็นมืออาชีพแต่ปาก ก็ขอเชิญอยู่ในโลกแห่งความสุขของคุณต่อไปเถิด ...เพราะผมก็เหนื่อยจะเคลียร์

05 December 2009

Long Live The Great King






" ทรงพระเจริญ "





.

03 December 2009

Bangkok Jazz Radio

ผมไม่รู้หรอกว่า เว็บไซต์นี้เปิดตัวมานานแค่ไหน และไม่รู้ว่าได้อัพเดตบ้างไหม หรือว่าเป็นเว็บตายไปแล้ว ฯลฯ ที่มาที่ไปที่ไปเปิดเจอเว็บนี้ เพราะนึกขึ้นได้ว่าเดือนนี้จะมีวงดนตรีที่ชอบวงหนึ่ง คือ Swing Out Sister มาเปิดคอนเสิร์ตเมืองไทย (วันที่ 19 ธันวาคมนี้ ที่สนามเสือป่า)
ลองเสิร์ชหารายละเอียดว่าพวกเขาจะมาวันไหน อะไร ยังไง ใครจัด ราคาบัตร และรูปแบบงาน ก็เลยลองพิมพ์ไปเรื่อย ใช้คีย์เวิร์ดอะไรบ้างจำไม่ได้ละ รู้แต่มี 'สนามเสือป่า' แน่นอน
ก็เลยกระเด็นมาที่เว็บ Bangkok Jazz Festival http://www.bangkokjazzfestival.com/ ซึ่งก็คืองานดนตรีแจ๊สที่มีเบียร์ยี่ห้อนั้นแหละ เป็นหัวเรือใหญ่ จัดมาหลายงานที่เราท่านรู้จักกันดี ผมเองเคยมีโอกาสไปชมดนตรีแจ๊สที่สนามเสือป่าปีแรก ชอบมาก บรรยากาศเหมือนไปปิ๊กนิกฟังดนตรี ต่างหอบอาหาร ไวน์ เบียร์ ไปฟังดนตรี ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย
เขียนมาตั้งนาน ก็แค่จะบอกว่า พอเปิดเว็บไซต์นี้ขึ้นมา ก็จะตามมาด้วยเสียงดนตรีแจ๊สเพราะๆ ทีแรกก็นึกว่าเป็นแค่คลิปเสียงแบล็คกราวน์ของเว็บไซต์นี้เท่านั้น ...ดูดีๆ ก็ไม่สิ... ขวามือบนของเว็บไซต์เขามีกรอบๆ หนึ่ง เป็น Bangkok Jazz Radio กันเลยทีเดียว หลายท่านอาจะเคยฟัง หรือฟังจนเบื่อจนเลิกฟังแล้ว แต่สำหรับผม เพิ่งพบเว็บนี้ และเพิ่งจะปลื้มมมมม! เพลงแจ๊สดีๆ ของวิทยุบางกอกแจ๊สนี้มากมาย แถมไม่มีโฆษณาขั้นให้สะดุดหู
รับรองว่าหาไม่ได้ตามคลื่นวิทยุเมืองไทยแน่นอน ปกติก็ต้องไปหาตามวิทยุอินเตอร์เน็ต ดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่สำคัญที่สุดคือเวลาเป็นวิทยุต่างประเทศ เน็ตก็ควรแรง ไม่งั้นก็ดับๆ ติดๆ - พอมาฟังวิทยุบางกอกแจ๊ส ก็แทบจะไม่ต้องรอโหลด เพราะมาให้ฟังทันที เข้าใจว่าเขาเปิดเพลงเป็น playlist แต่จะเป็นเพลงวนหรืออะไรก็ตามเหอะ การที่มีเพลงดีๆ ให้ฟังกันง่ายๆ แบบนี้ รู้สึกดีจัง จะได้ไม่ต้องฟังแต่เค-ป๊อป แพทเทิร์นเดียวเหมือนทุกวันนี้
ต้องขอบคุณเบียร์ไฮเนเก้น ที่สร้างสรรค์อะไรเจริญหูให้ฟังกัน (รวมทั้งท่านผู้มีส่วนในการสร้างสรรค์ BJRท่านอื่นๆ ด้วยครับ)
แล้วก็ให้คิดถึงคุณแสงชัย สุนทรวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการองค์การสื่อสารมวลชน ผู้ล่วงลับ ที่เป็นผู้บุกเบิกให้มีคลื่นวิทยุดนตรีคลาสสิกเป็นครั้งแรก รวมทั้งรายการทีวี (ช่อง 9) ดีๆ หลายๆ รายการ ไม่ใช่กลับไปเป็นโมเดิร์นไนน์ ทีวีช่องที่กำลังบ้าบอไปเรื่อยๆ (รู้สึกเคืองที่เอารายการ 'ตาสว่าง' ออกไป แล้วเอารายการ seed อะไรสักอย่าง ดูชื่อรายการก็รู้แล้วว่าเป็นรายการวัยรุ่นทั่วไปรายการหนึ่ง

บอกหลายครั้งแล้วว่า รสนิยมดีๆ มันซื้อหากันไม่ได้จริงๆ

01 December 2009

Omotesando Illumination 2009

หัวค่ำที่ผ่านมา มีพิธีเปิดไฟถนนโอโมเตซางโดะ อย่างเป็นทางการ ชื่อ Omotesando Illumination Bell Symphony ประดับไฟ LED (หลอดประหยัดไฟ) กว่า 300,000 ดวง ตั้งแต่ศาลเจ้าเมอิจิ จิงกุ ไปจนถึงถนนอาโอยามะ รวมความยาวกว่า 1 กิโลเมตร ปกติถนนแถวนั้นก็สว่าง และสวยอยู่แล้ว (เคยไปเมื่อคืนวันที่ 30 ธันวาคม แม้จะเงียบฉี่ และโอโมเตซางโดะฮิลล์จะยังไม่เปิด) ก็สว่างไสว และดูโรแมนติก ตอนนี้คงไม่ค่อยโรแมนติก เพราะคนไปเที่ยวคงมหาศาล!
ตามข่าวว่า เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี ที่ถนนสายนี้จะสว่างไสวไปด้วยไฟประดับถนน นอกจากจะมีหลอดประหยัดไฟ ก็ยังมีระฆังประดับประดา พร้อมด้วยดนตรีพิเศษสำหรับเทศกาลความสุข ที่จะเริ่มส่องสว่างตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม ไปจนถึง 10 มกราคม (ก็พอดีช้อปปิ้งของเซลล์กันต่อเลย) ใครผ่านไปแถวโตเกียว อย่ามัวแต่ช้อปปิ้ง แวะไปดูเทศกาลน่ารักๆ แบบนี้กันดีกว่า
ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่นครับ ซอรี่) http://www.omotesando.or.jp/bellsymphony/
ไหนๆ ก็ไหนๆ ถ้าจำกันได้ ตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่เมืองโกเบ เขาก็ได้จัดให้มีงานแสดงดวงไฟ Kobe Luminarie เป็นประจำมาจนถึงวันนี้ และถือว่าเป็นเทศกาลดวงไฟ ที่สวย และยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ปีนี้ก็เช่นกันครับ เริ่มส่องสว่างกันตั้งแต่วันที่ 3 - 14 ธันวาคมนี้เท่านั้น งานที่โกเบ จัดไม่นาน แต่เน้นๆ เต็มๆ

เว็บไซต์ที่ผมเคยเขียนถึงเทศกาลนี้ http://veraphol.spaces.live.com/blog/cns!9F19219C7E9C3CC3!2898.entry

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ http://www.kobe-luminarie.jp/


สำหรับผม งานหลัง ดูจะมีความพิเศษมากสำหรับผมที่เดียวครับ เห็นทุกครั้ง ก็ทั้งมีความสุข และเศร้าเคล้ากันไป ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ลืมภาพวันเก่า และเรื่องราวดีๆ ก็เหมือนกับแสงไฟของโกเบ อิลลูมิเนชั่น แต่ละดวงที่เปรียบเสมือนวิญญาณของผู้เสียชีวิตในแผ่นดินไหว และความทรงจำ ณ ที่แห่งนั้น

ที่จะคงอยู่ตลอดไป...